หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556

วิเคราะห์อนาคตตลาดที่มองไม่เห็น (เดาล้วนๆ)

*******คาดการณ์อนาคตเล็กน้อยนะครับ โดยใช้หลักการทำสงครามทางการเงิน มองไปในทางเลวร้ายสุดๆครับหากใครไม่ชอบหรือมีหุ้นติดตัวอยู่ กรุณาผ่านนะครับ*******

และคงไม่แชร์ออกไปภายนอกครับ สำหรับผู้ติดตามบล๊อกนี้อยู่หากสนใจก็เชิญชมครับ
===========================================================================
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>EDIT : 12/9/56 เพิ่มรูปกราฟ เพิ่อวิเคราะห์แนวรับต่ำสุดที่ตลาดจะไปถึง โดยคาดว่าน่าจะเป็นแถวๆ 1160-1180 ครับ

TF day + ทดสอบ Fibo ขา A

           ตามหลักการของ ellioite wave ขา C จะต้องยาวเป็น 1.618 เท่าของขา A ได้จุดต่ำสุดของ C ที่ 1148.97

TF day + Fibo จุดสูงสุดขา C4
          อันนี้ลองลากดูคร่าวๆ ตกแถวๆ 1163

TF Month + Fibo
          โดยหลักการของ Elliote wave ถือว่าอยู่ในเวฟ รอบใหญ่เวฟที่ 4 โดยต้องไม่ต่ำกว่า จุดสูงสุดของเวฟ 1 และต้องไม่ต่ำกว่า 38.2% ฟิโบนันชี่ แนวรับจะไปตกแถวๆ 1170
****เนื้อหาข้างล่างเป็นเนื้อหาเก่าครับ****
         ต้องเท้าความเกี่ยวกับเรื่องตลาดหุ้นบ้านเราสักนิดนึงโดยจุดต่ำสุดของตลาดหลังจาก เกิดวิกฤต subprime ขึ้นมาตลาดได้พังทลายลงอย่างรวดเร็ว สาเหตุเพราะต่างชาติดึงเงินที่อยู่ในตลาดบ้านเราออกทั้งหมด ทำให้ตลาดพังลงมาครับ แต่หลังจากที่ทางอเมริกา มีการประกาศใช้ QE 1 ตอนช่วงกลางปี 52 ก้ได้มีการนำเงินกงเต๊กที่พิมพ์ขึ้นมาเหล่านี้มาหาประโยชน์จากในตลาดบ้านเราครับ และทำมาเรื่อย กระทั่ง QE 2 3 ก็เช่นกัน
ดังนั้นเราจึงต้องยอมรับในจุดนี้ว่าส่วนหนึ่งที่ตลาดขึ้นมาขนาดนี้ได้เพราะเงิน QE ด้วยเช่นกัน เพียงแต่ผู้ที่อยู่ในตลาด ณ ช่วงเวลานั้นจึงเป็นผู้โชคดีและมีความกล้าที่จะลงทุนในขณะที่ทุกคนกลัวนั่นเองครับ ดังนั้นการที่เรามาลงทุนในขณะที่ตลาดสูงขนาดนี้จึงเป็นความเสี่ยงครับ เหมือนเรามาปั่นเงินให้ต่างชาติ แล้วก็เอาเงินออกไป โดยวัฏจักรนี้ค่อนข้างยาวพอสมควรแก่เวลาแล้ว (ส่วนมากรอบวัฏจักร ราวๆ5-7ปี) ผู้ที่เข้ามาทีหลังก้เป็นแค่ผู้เติมความมั่งคั่งให้กับผู้ที่มาก่อนแล้วนั่นเอง

          และจากภาพรวมตลาดขณะนี้ที่อ้างอิงจาก  http://marketdata.set.or.th/mkt/marketsummary.do?language=th&country=TH  set = 1293 PE ราวๆ 13.83 PB 1.977 ปันผลเฉลี่ย 3.2% ผลตอบแทนแทบจะเทียบเท่ากับดอกเบี้ยเงินฝากประจำพิเศษบางที่แล้ว และหากมองไปตามเศรษฐกิจของบ้านเราแล้วก็จะเริ่มเห็นการชะลอตัวในภาคต่างๆ ทั้งรัฐ เอกชน ส่งออก ผู้บริโภค ถือว่าพื้นฐานทางเศรษฐกิจเปลี่ยนครับ น่าจะเริ่มส่งผลชัดขึ้นอีกในไตรมาส 3 จึงไม่แปลกใจนักหากจะมีการทะยอยขายหุ้นทิ้ง ณ ระดับ set ปัจจุบัน

          ถ้ามองในมุมผม ยังไงตลาดตอนนี้ก็เพิ่งเหมาะสมสำหรับการลงทุน แต่ไม่ใช่ในระยะยาวที่อนาคตเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว ตามความเห็นคือ ยังไม่มี MOS สำหรับตลาด ณ ปัจจุบันครับ แต่หากมองรายตัวอาจจะมีบางตัวที่น่าสนใจแล้วก้ได้

          กลับมาที่มุมมองของนักลงทุนต่างชาติ ในเมื่อเขาเข้ามาแล้วกำลังจะออกไป ถ้าเป็นตัวผมเองผมจะค่อยๆทยอยขายไปเรือยๆ และหากวางแผนว่าจะมีการกลับมาลงทุนอีกครั้งหนึ่งจะต้องมีการถือหุ้น ส่วนสุดท้ายไว้ในมือแน่นอนสำหรับการทุบหุ้นครั้งสุดท้ายเพื่อให้ตลาดพังลงมาและ ค่อยเข้ามาเก็บกวาดล้างกระดานเล่นใหม่ ดังนั้นถ้าตามที่ผมคิดไว้การลดลงของตลาดตรงจุดนี้ไม่ใช่การ ปรับฐานเพื่อขึ้นรอบใหม่ แต่เป็นการล้างกระดานเพื่อเริ่มรอบใหม่มากกว่า ซึ่งก็น่าจะทำตามแผนมาได้ในระดับหนึ่งแล้ว โดยการหลอกล่อให้รายย่อยเข้าไปซื้อหุ้นแล้วติดไว้สูงๆ จนไม่มีเงินมารับกับการเทหน้าตักครั้งสุดท้าย จึงน่าจะได้เห็นการพังทลายของตลาดครับ ที่เคยมีนักวิเคราะห์ว่าอาจโน circuit breaker คาดว่าอาจไม่ไกลเกินจริงนัก

จากรูปเกมการเงินนี้ ผมให้ข้อคิดเห็นว่าถ้ามองแล้วเหมือนการพิมพ์เงินมาปล้นเงิน(ในตลาดหุ้น/บอนด์) ประเทศอื่นมากกว่า ที่ฝรั่งทั้งเมกา ยุโรป และ ญี่ปุ่น ทำ QE มาร่วมด้วยช่วยกันถลุง ทรัพยากรเงินในประเทศต่างๆเช่น bric หรือ emerging market น่าจะใกล้เดินทางมาสู่จุดสุดท้ายแห่งปาร์ตี้แล้ว และผมคาดว่าอีกเราอาจจะได้เห็นการตกอย่างรุนแรงหรือพังทลายของตลาดในไม่ช้านี้อย่างแน่นอนครับ เพื่อให้มีการล้างไพ่มาเล่นใหม่ เพราะหรั่งคงไม่กลับมาซื้อของแพงต่อจากเราหรอกครับ

ปล.ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัว และผมคาดการณ์จากมุมมองที่ต่างชาติจะได้เปรียบมากที่สุดครับ เพราะมีทั้งเงินและสร้างข่าวสารเกี่ยวกับตลาดต่างได้ๆ ขอให้ทุกคนบริโภคบทวิเคราะห์อย่างมีสติครับ
ปล2. และผมคงไม่คาดว่าตลาดจะลงไปถึงไหน ถ้ามันลงสุดเมื่อไหร่ก็ต่อเมื่อราย่อยตายทั้งตลาดนั่นแหละครับ

วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เรียนรู้ TFEX (2)

          บทเรียนต่อไปจะเป็นเรื่องความรู้เบื้องต้นในการเทรดสัญญา Tfex ครับ โดยหลักการของ Tfex มีที่มาจากการทำสัญยาซื้อขายสินค้าอ้างอิงในอนาคตระหว่างคู่สัญญา 2 ฝ่าย โดยสินค้าอ้างอิงก็ตามแต่จะตกลงกัน โดยในตลาด Tfex ก็จะมีการซื้อขายสัญญาที่อ้างอิงตามตัวสินค้าต่างๆเช่น ตัว SET50 future ตัวหุ้นที่เป็นที่นิยมของตลาดหรือ single stock future
         ตัวสัญญานั้นจะสมบูรณ์ได้ก็ต่อเมื่อมีคู่สัญญา 2 ฝ่ายตกลงเข้าทำสัญญาซึ่งกันและกัน โดนฝ่ายหนึ่งคาดการณ์ว่าสินค้าอ้างอิงจะมีราคาลดลง ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งคาดารณ์ว่า สินค้าอ้างอิงจะมีราคาสูงขึ้นจับคู่ตรงกันโดยผ่านการวางเงินประกันไว้ที่คนกลางเพื่อไว้ชำระค่าสัญญา ดังนั้นจากลักษณะของสัญญาแล้ว จะเห็นได้ว่า การซื้อขายหรือทำสัญญา Tfex นั้นจะมีผู้ที่ได้กำไรและมีผู้เสียกำไรในปริมาณที่เท่ากัน จึงอาจพูดได้ว่าเป็น Zero sum game อย่างแท้จริง จึงไม่แปลกใจนักหากจะมีบางคนปรามาสว่า Tfex เหมือนบ่อนถูกกฎหมายดีๆนี่เอง (**ส่วนนี้จะต่างจากการซื้อหุ้นเพราะหุ้นมีผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้ถือหุ้นจะเติบโตไปด้วยกันพร้อมกับบริษัทได้)

         เมื่อเรารู้ถึงการทำงานของตัว Tfex แล้วต่อไปเราจะมาเริ่มเรียนรู้การซื้อขาย Tfex เบื้องต้น โดยระบบจะเริ่มจากการ เปิดสัญญาก่อน Open การเปิดสัญญาจะเปิดสถานะตรงกันข้ามในซี่รี่เดียวกันไม่ได้ และหากต้องการปิดสัญญาให้เลือก Close แต่ต้องมีสัญญาถือไว้จึงสามารถส่งคำสั่งไปปิดได้


         การส่งคำสั่งซื้อ-ขาย จะเริ่มโดยการ Open หรือเปิดสัญญา แล้วเลือกว่า
         -ซื้อสัญญาก่อนที่ราคาต่ำ เพื่อไปขายสัญญาออกที่ราคาสูงเพื่อทำกำไรส่วนต่าง แต่หากขายสัญญาได้ถูกกว่าที่ซื้อมาก็จะถูกหักส่วนต่างจากเงินประกันที่วางไว้เช่นกัน หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่าแทงขึ้น (Open buy หรือ long position ---> close sell เพื่อปิดสัญญา long)
         -ขายสัญญาก่อนที่ราคาสูง เพื่อไปซื้อสัญญาคืนที่ราคาต่ำเพื่อทำกำไรส่วนต่าง แต่หากซื้อคืนได้ในราคาสูงกว่าที่ขายไปก็จะถูกหักส่วนต่างจากเงินประกันที่วางไว้เช่นกัน หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่าแทงลง (Open sell หรือ short position ---> close buy เพื่อปิดสัญญา short)
          ส่วนการปิดสถานะสัญญา ต้องทำตรงข้ามกับการเปิดสถานะเสมอ
          การใส่คำสั่งเพิ่มเติม ช่องที่ 1 ให้ใส่ชื่อสัญญา เช่น S50U13 โดยที่
          -S50 ชื่อย่อของสัญญา set50 , BR ชื่อย่อของ น้ำมันbrent , GF ชื่อย่อของ gold future และชื่อตัวย่อหุ้นเป็นต้น
          -U หมายถึง กำหนดหมดอายุของสัญญา โดยจะแบ่งเป็น 12 ซี่รี่ซึ่งจะหมดอายุในแต่ละเดือน แต่สัญญาที่นิยมกันมากมักจะเป็นสัญญาทุกช่วง สิ้นไตรมาสหรือ 3 เดือนคือ ซี่รี่ H (มี.ค.) , M (มิ.ย) , U (ก.ย.) , Z (ธ.ค.)
          -13 หมายถึง ปีที่หมดอายุ ใช้ดูประกอบกับตัวซี่รี่
          ช่องที่ 2 ใส่จำนวนสัญญาที่ต้องการเปิด หากมีหลายสัญญาและต้องการแตกออเดอร์ย่อยให้ใส่ ตัวเลขที่ P/B vol
          ช่องที่ 3 ใส่ราคาที่ต้องการ
เมื่อส่งคำสั่งเรียบร้อยแล้ว การจับคู่ซื้อขายจะเหมือนกับการซื้อขายหุ้นทุกประการ ซึ่งส่วนนี้ผู้ที่ผ่านตลาดมาบ้างคงจะทราบกันอยู่แล้ว จึงไม่ขออธิบายเพิ่มเติม

วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2556

วิเคราะห์ตลาด 25/8/2556


TF day

          ผ่านไปอีก 1 สัปดาห์แดงเดือด ถือว่าเป็นสัญญาณลงที่ค่อนข้างชัดเจนทีเดียวสำหรับสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยตอนแรกไม่คิดว่าจะลงแรงและเร็วขนาดนี้
          จากกราฟ Day เริ่มมีสัญญาณการรีบาวน์ทางเทคนิคเล็กน้อย โดยช่วงนี้จะให้ความสำคัญกับ Fund flow ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการวิเคราห์แนวโน้ม
          แท่งเทียนไปปิดที่ BB ล่างพอดี แต่กราฟเป็นแท่งแดงเต็มแท่ง ทำให้มองแนวโน้มมีโอกาสลงต่อเนื่อง แต่เนื่องจากวันศุกร์ ฝ่ายขายหนักกลับเป็น prop trade จึงมองเป็นลักษณะการขายทุบมากกว่า
          ADX แรงซื้อเริ่มชะลอตัวเล็กน้อย ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับการชะลอแรงขายของต่างชาติ และเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาบ้าง แต่สัญญาณแนวโน้มเทรน เริ่มชัดขึ้นว่าเป็นขาลง
          MACD ตัดลง ชัดเจน แสดงถึงแนวโน้มขาลง พร้อมกับ ตัว MACD ที่ตัดลงต่ำมาก
          RSI 30.129 เกือบถึงเขต OVS 
          Sto ไปอยู่ในโซน OVS เรียบร้อย เส้นสัญญาณยังไม่แสดงถึงการรีบาวน์ %Kแต่มีการยกตัวสูงเล็กน้อยจาก วันที่ 21 ส่วน %D มีการชะลอการลงเล็กน้อยเช่นกัน เส้นสัญญาณตัดขึ้นแต่สัญญาณไม่แข็งแรงนัก
          Momentum มีการฟื้นตัวเล็กน้อย
         
          จากการวิเคราะห์กราฟ day มีแนวโน้มรีบาวน์ได้ในระยะสั้น

TF week

          ส่วนแนวโน้มกราฟ week คร่าวๆ จากสัญญาณแท่งล่าสุด ทำให้ indicator ทุกตัว โดยเฉพาะ Momentum แสดงถึงการอ่อนแรงของรูปกราฟอย่างชัดเจน และ MACD ใกล้ตัดลง 0 ซึ่งน่าจะเป็น indicator ในการบอกแนวโน้มที่ช้าที่สุดแล้ว จึงน่าจะบอกได้ว่าช่วงนี้เป็นแนวโน้มขาลงอย่างเต็มตัวแล้ว แถมยังปิด ต่ำเส้น 75Week จึงทำให้อาจจะเป็นแนวต้านแทนได้

TF month

          กราฟ Month ตามที่วิเคราะห์ไปเมื่ออาทิตย์ก่อน ว่าหากปิดเดือนแล้วเกิดปิดต่ำกว่า 1400 ขึ้นมาจะเกิดแท่งแดงติดต่อกัน 4 แท่ง ซึ่งตามแนวโน้มแล้วคาดว่ามีโอกาสค่อนข้างสูงมากทีเดียวที่จะปิดเดือนในระดับต่ำกว่า 1400 ซึ่งในความเป็นจริงหากเกิด Three black crow นี่ให้ถือเป็นสัญญาณอันตรายได้แล้ว แต่หากมีแท่งที่ 4 คาดว่าผู้ที่ลงทุนระยะยาวอาจจะต้องเริ่มพิจารณาความเสี่ยงของการถือหุ้นที่ลงทุนบ้างแล้ว หากมีต้นทุนต่ำอาจจะต้องทำการเก็บต้นทุนหรือทำกำไรออกแล้ว ส่วนผู้ที่ติดสูงก็น่าจะเริ่มพิจารณาการถือครองหุ้นของท่านครับ

ยอดซื้อ-ขาย prop และ ต่างชาตินับจากวันที่เทขายอย่างหนักตามลำดับ

          จากแนวโน้มในสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มการขายของต่างชาติค่อยๆชะลอตัวลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดซื้อขายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เป็นการเทขายทุบตลาดจากทางฝั่ง prop trade จึงมองเป็นนัยยะว่าน่าจะเป็นการทุบเก็บหุ้นหรือตัว tfex ซะมากกว่า และยังมองแนวรับระยะสั้นที่ 1340 ที่แรงขายต่างชาติชะลอตัวได้ในระยะนี้ Sentimen ตลาดจากปัจจัย fundflow จึงน่าจะเบาบางไปชั่วคราว ส่วนปัจจัยที่น่าจะทำให้ตลาดรีบาวน์ได้ในระยะสั้นน่าจะมากจาก การ cover short จากทางฝั่ง prop trade ประกอบกับ สัญญาณช่วงนี้ก็เริ่มเข้าเขต OVS กันแล้ว ทำให้น่าจะเห็นการรีบาวน์ทางเทคนิคได้ในระยะสั้นนี้

          ความเห็นส่วนตัว จากที่เปิดยอดซื้อขายในวันศุกร์ออกมาทำให้คาดว่ามีโอกาสที่น่าจะมีการรีบาวน์ในสัปดาห์หน้า ประกอบกับการเทขายของ prop ในตลอดวัน ทำให้เกิด basis ในการเปิดสัญญา tfex ค่อนข้างมากทีเดียว จากแนวโน้ม Net จากทางฝั่งสถาบันเข้ามาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ยิ่งมองโอกาสรีบาวน์ค่อนข้างสูงขึ้นไปอีก ประกอบกับถ้าแรงขายจากทางต่างชาติชะลอตัว ทาง prop น่าจะมีการทำกำไรระยะสั้นจากการ รีบาวน์ครั้งนี้ไม่น้อย โดนมองแนวต้านของการรีบาวน์อยู่ราวๆ 1380 แต่ไม่น่าถึง 1400 แนวรับในอาทิตย์หน้าน่าจะอยู่ราวๆ 1340 ครับ ยังมองว่าน่าจะออก Sideway ไปทางลงเล็กน้อย จนกว่าจะถึง แถลงของ FED ครับ แนวรับสำคัญที่ไม่ควรจะหลุดคือ สำหรับ SET จะอยู่ที่ 1280 /SET50 850 ตามลำดับ หากหลุดแนวนี้ก็ตัวใครตัวมันครับ

Trading stratgy : wait and see สำหรับนักลงทุนครับ /ลุ้นรีบาวน์ระยะสั้นโดยที่ upside ไม่ได้มากสำหรับนักเก็งกำไรที่รับความเสี่ยงได้สูง
แนวโน้มตลาด : Sideway down หากไม่หลุด 1300 และ 1280

         

วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556

วิเคราะห์ตลาด 16/8/2556

TF-day
TF-Week
TF-Month

จากรูปกราฟคร่าวๆนะครับ
ADX แรงซื้อเริ่มแผ่วครับ แต่ความชัดเจนของสัญญาณ ยังไม่ชัดเจน
MACD ยังดำน้ำอยู่ตื้นๆ เหมือนกำลังเลือกแนวโน้มอยู่
RSI / Momentum ไม่ทำ high ใหม่ แถมเริ่มหักหัวลงทำให้มองแล้วแรงเด้งครั้งนี่ น่าจะหมดแรงแล้ว
Sto เข้าเขต OVB ตัดลง สัญญาณขายครับ (แต่สัญญาณมันค่อนข้างไวกว่าเพื่อนครับ อาจจะไม่ลงจริงก้ได้ จึงแนะนำให้เฝ้าระวังไว้ก่อน)
          โดย sentiment ของตลาด โดยรวมถือว่าไม่ค่อยดีครับ จากที่ตอนแรกคิดว่าจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านเดิมที่ 1480 กลับกลายเป็นว่า ไปทดสอบได้แค่ 1465 แล้วก็ไหลลงต่อ ถ้าตามเทคนิคัล ถือว่าการีบาวน์ ของรอบ 1520 จบแล้วครับ และถ้านับตาม elliote wave จะเห็นชัดครับว่า ตรง 1465 นี่เป็นเวปใหญ่ขาลง เป็นขาลงของเวฟ C ครับ (สนใจไปศึกษากันดูนะครับ ว่ามันมีเวฟใหญ่เวฟย่อยยังไงบ้าง)
          กราฟ TF month ถ้าสิ้นเดือนนี้ปิดต่ำกว่า 1400 ขึ้นมา จะน่ากลัวมากครับ เพราะเป็นแท่ง แดง 4 แท่งติดต่อกัน/ ส่วน week ฟ้องว่าที่ขึ้นมารอบนี้เป็นการรีบาวน์เฉยๆครับ ยังเป็นขาลงต่อเนื่องและน่าจะจบรอบรีบาวน์แล้วเพราะ จุดสูงสุดใหม่ แค่ 1465 เทียบกับ high เก่าที่รีบาวน์ไว้ 1520 จึงมองแล้วโอกาสว่าน่าจะลงค่อนข้างสูงครับ มีโอกาสไปทดสอบ แถว 1400 ค่อนข้างสูง และถ้าหลุดก็อาจไปถึงแนวรับเก่าที่ 1350 ถ้ารับอยู่อีก ก็ต้องดูรีบาวน์ว่าผ่าน 1400 ได้ไหม ถ้าผ่านได้ รูปแนวโน้มจะออกแนว sideway ครับ แต่ถ้าไม่ผ่าน ก็แปลว่าตลาดยังเป็นขาลงต่อเนื่องครับ
          สำหรับหน้าไพ่ที่ติดตามมาซักพัก ก็เริ่มมองเห็นได้ว่าทางหรั่งยังเหลือ short อยู่ ส่วนกองก็ทยอยปิด  long จนหมดตั้งแต่กลางๆเดือนที่แล้วเริ่มมี short สะสมบ้างแล้ว ประกอบกับ มีการ short SSF ไว้แล้วเช่นกัน จึงคาดว่ากองไม่ห่วงที่ตลาดจะลงมากครับ

          ส่วนหนึ่งวันนี้เป็นวันศุกร์ แถมเมื่อวานก็มีการประกาศ jobless claim และตัวเลข CPI ออกมาดีกว่าคาดทำให้คนวิตก QE (อีกแล้ว) และตัวเลขต่างๆก็ไปในทิศทางเดียวกัน เช่น ค่าเงิน 10years treasury bond และตลาด ดาวน์โจนก็ปรับตัวลง ดูแล้วคือ คนอเมริกาเอาเงินออกจากสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่องครับ ทำให้ตลาดหุ้นโดนกดดันจาก fundflow อีกครั้ง ประกอบกับวันนี้ช่วงบ่ายมีแรงขายออกมาราวๆ 3-4 พันล้านในหุ้นกลุ่ม set 50 ครับ(สังเกตุจากใน list เห็นกระพริบกันค่อนข้างถี่มาก)น่าจะเป็นจากทางต่างชาติ สรุปสิ้นวันรายย่อยโดนรุม 3-1 จะดอยไม่ดอยวันจันทร์น่าจะรู้กันครับ
          แนวโน้มตลาดน่าจะลงต่อเนื่องครับ อาจรอรับแถวแนวรับบ้างเพื่อลุ้นรีบาวน์ได้ครับ และถ้ารับอยู่ที่แนวรบใหญ่ไหน ก็อาจจะออกแนว sideway ไปได้ครับ
          ความเห็นส่วนตัว : คาดว่าตลาดอาจจะปรับตัว sideway มากกว่า โดยน่าจะอยู่บริเวณ 1400-1450 ซึ่งน่าจะพอเหมาะกับมูลค่าหุ้นของบ้านเรา ณ ปัจจุบัน แต่บอกไว้ก่อนนะครับว่าไม่มี Mos ให้นักลงทุนเท่าใดนัก หากต้องการลงทุนจริงๆรอหลังจากที่อะไรๆชัดเจน ตอน FED แถ-ลง taper QE ในวันที่ 17-18 กย นั่นแหละครับที่น่าจะกำหนดทิศทาง ตลาดอย่างชัดเจน.... แต่ที่ผมติดใจอยู่คือเรื่อง สัญญาสะสม tfex ของกองและหรั่งมากกว่าครับ ที่ทำให้มองเป็น sideway ไม่ค่อยถนัด

Trading stratgy : ลดพอร์ตลง และอาจจะลองเข้าเก็งกำไรแถวแนวรับใหญ่ได้ ถ้าเก็งกำไรระยะสั้นก็เน้นรายตัวดูครับ
แนวโน้มตลาด : รอให้ FED แถลงให้ชัดเจนและรอดูการตอบรับจากตลาด อาจขึ้นหรือลงก้ได้ เพราะตลาดได้รับข่าวไปบ้างแล้ว แต่มีมุมมองทางลงมากกว่า