วลีโดยส่วนมากมักจะตรงไปตรงมา ดังนั้นผู้เขียนจะยกมาแต่วลีที่มีแนวคิดอีกด้านหนึ่งมาเสนอเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจอย่างถูกต้องไม่เข้าข้างตนเองเกินไปจนทำให้เสียโอกาสทางการลงทุนได้
-ไม่ขายไม่ขาดทุน
เป็นหนึ่งในวลีที่ผู้พ่ายแำพ้ในสนามลงทุนนี้ใช้ปลอบใจตัวเองเมื่อยามที่ตัวเองพลาดพลั้ง และไม่ยอมรับความผิดพลาดของตนเองโดยมากมักจะเกิดขึ้นกับหุ้นปั่นมากกว่าหุ้นแนวพื้นฐาน เนื่องจากหุ้นปั่นนั้นไม่มีปัจจัยดึงดูดให้ราคาหุ้นมามารถขึ้นได้ในระยะยาว ราคาที่ขึ้นชั่วครั้งคราวเป็นผลมาจากแรงซื้อ-ขายหุ้นล้วนๆ ดังนั้นเมื่อหมดรอบการเก็งกำไรแล้วราคาหุ้นมักจะกลับสู่สถานะเดิม
-VI จำเป็น
โดยลักษณะแล้วจะคล้ายๆ ไม่ขายไม่ขาดทุน แต่ต่างกันตรงที่หุ้นที่ถือครับ ถ้าหากเป็นหุ้นที่เราคัดสรรแล้วว่าเป็นหุ้นพื้นฐานดีมีอนาคต ก็ยังถือว่าข้อดีอยู่บ้างว่าอย่างน้อยราคาที่เราซื้อสูงนั้นยังมีโอกาสกลับไปสูงจุดเดิมได้ ฉะนั้นระยะเวลาในการเป็น VI จำเป็นจึงขึ้นอยู่กับค่า premium ที่เราจ่ายไปขณะซื้อหุ้นนั้นๆ เนื่องจากว่าหุ้นพื้นฐานที่ดีนั้นถึงแม้เราจะซื้อที่ราคาสูงแต่หากตัวบริษัทนั้นดีอย่างที่เราคาดหวังไว้ ราคาย่อมต้องเติบโตตามบริษัทอย่างแน่นอน เพียงแต่เราอาจเสียโอกาสของเงินเท่านั้น แต่ก็ถือว่ายังดีกว่าไม่ขายไม่ขาดทุนครับ
-อิสรภาพทางการเงิน
เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ VI หลายๆคนต้องการเลยทีเดียว แต่การที่จะมุ่งไปถึงจุดที่ต้องการได้นั้นก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่ามีความต้องการทางการเงินในระดับใด เพื่อจะได้วางแผนทางการลงทุนได้อย่างถูกต้อง โดยเราต้องตัดเรื่องความโลภและฟุ่มเฟือยทิ้งไป เพราะถ้ามีทั้ง 2 อย่างนี้เข้ามาแล้วไม่ว่าจะมีเงินสักเพียงใดก็ไม่เพียงต่อต่อความต้องการของเรา ทำให้การลงทุนนั้นต้องมีความเสี่ยงโดยไม่จำเป็นเพียงเพื่อหวังผลตอบแทนที่สูงขึ้นตามความต้องการของเรา ถ้าเราลองสังเกตุ บุคคลที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนนั้นมักจะเป็นคนมัธยัสไม่หรูหราฟุ่มเฟือย มีความอดทนในการรอเพื่อให้การลงทุนผลิดอกออกผลจนพอใจแล้วจึงนำมาใช้สอยเพื่อเป็นกำไรแก่ชีวิตบ้าง
ดังนั้นอิสรภาพทางการเงินไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินไปนักหากเราวางแผนแต่เนิ่นๆ มีการลงทุนที่ถูกต้อง เราต้องอดทนและมีเวลาให้มันเจริญเติบโตจนถึงจุดที่เราตั้งใจไว้ เราก็จะมีอิสรภาพทางการเงินดังที่หวังได้ครับ
***หมายเหตุ***
ใครที่นึกวลีหรือข้อคิดที่แปลกๆได้ ลองเสนอมาได้นะครับผมจะเพิ่มเติมให้ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น